สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา สนับสนุนการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ไทย จากแนวปฏิบัติที่ดีของออสเตรีย
วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) มีความสำคัญสูงต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ขณะที่ออสเตรียมีกลุ่ม SME ที่เข้มแข็งมาก ซึ่งไทยสามารถเรียนรู้และนำแนวปฏิบัติที่ดีมาประยุกต์เพื่อส่งเสริม SME ของไทย สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนาจึงริเริ่มโครงการเสริมสร้างศักยภาพ SME ระหว่างไทยกับออสเตรีย โดยเชิญผู้แทนหน่วยงานไทยเดินทางเยือนออสเตรีย นำโดยนายวิทวัส ล่ำซำ ผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) พร้อมด้วยผู้แทนจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นในฐานะหน่วยงานปฏิบัติด้านการจัดทำหลักสูตรพัฒนา SME เพื่อหารือกับหน่วยงานของออสเตรีย โดยในระยะแรกเริ่มที่สาขาการแปรรูปอาหารและเทคโนโลยีการเกษตร โดยเฉพาะสินค้าออร์แกนิก
ในโอกาสนี้ คณะได้พบผู้แทนกระทรวงเศรษฐกิจ พลังงาน และการท่องเที่ยวออสเตรีย และได้รับทราบนโยบายและกลไกภาครัฐในการสนับสนุน SME ออสเตรียผ่านโครงการ/กิจกรรมรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการให้เงินทุนสนับสนุน โดยเฉพาะด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจสีเขียวและดิจิทัล อีกทั้งได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับผู้แทนหน่วยงาน Agro Bio และบริษัท LebensmittelFairPackung เกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการสินค้าออร์แกนิกกับร้านค้าที่จะจำหน่าย โดยทำหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่จะวางจำหน่าย อาทิ ซุปเปอร์มาร์เกต Hofer และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะกับสินค้าออร์แกนิกเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับของอียูและสามารถสื่อสารดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย
ด้านการวิจัยและพัฒนาสินค้า คณะได้เยี่ยมชม BOKU Core Facility Food & Bio Processing (CF FBP) ซึ่งให้บริการด้านวิจัยและพัฒนาสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งบริหารจัดการอย่างเป็นระบบและเปิดโอกาสให้ SME ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือและความเชี่ยวชาญเพื่อพัฒนาสินค้าต่าง ๆ
นอกจากนี้ คณะได้เรียนรู้ประสบการณ์ความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก Ja! Naturich ภายใต้บริษัท REWE ซึ่งเป็นสินค้าชั้นนำในตลาดออร์แกนิกออสเตรียมานานกว่า 30 ปี มีสินค้าภายใต้แบรนด์ดังกล่าวกว่า 1,200 รายการ และมีจุดเด่นด้านการส่งเสริมความร่วมมือกับเกษตรกรออสเตรียอย่างใกล้ชิดจนนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและยั่งยืน
โครงการดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญในการศึกษาแนวปฏิบัติที่ดีของออสเตรีย ทั้งการสร้างเครือข่ายพันธมิตรในกลุ่มสินค้าออร์แกนิกที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เกษตรกร ผู้ประกอบการในกลุ่มเดียวกัน จนถึงช่องทางจัดจำหน่าย รวมถึงการยกระดับมาตรฐานสินค้าและการควบคุมคุณภาพ โดยมีภาครัฐกำกับดูแลและให้การสนับสนุนภาคเอกชนในการวิเคราะห์ตลาด การให้คำปรึกษา และสนับสนุนด้านการเข้าสู่ตลาด ซึ่งประเทศไทยสามารถนำมาปรับใช้ในการสร้างความเข้มแข็งและยกระดับคุณภาพของสินค้ากลุ่มออร์แกนิกไทยต่อไป
